จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มหกรรมวิถีสีเขียว

ตั้แต่วันที่ 16 ธ.ค. 2553 มีงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ณ สวนลุมพินี
ชื่องานคือ สหกรรมวิถีสีเขียว หรือ Green Fair

ถ้ามีเวลาก็จะแวะไปชมบ้าก็ดีเหมือนกันนะครับ

http://www.greenfair.in.th/


วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กระทงชีวภาพ2

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. 2553 ที่ผ่านมา(เมื่อวานนี้เอง) ศูนย์คัดแยกขยะของฝ่ายสิ่งแวดล้อม(คุณครูและผู้ปกครอง)ได้จัดงานทำกระทงจุลินทรีย์ ณ โรงช้าง โรงเรียนรุ่งอรุณ
เด็กๆและผู้ปกครองหลายๆท่านเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ขอขอบคุณคุณพ่อที่ช่วยจัดกิจกรรมนี้นะครับ

คุณพ่อก็ไม่ได้คาดหวังว่าหลายพันหลายหมื่นคนหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมในวันนี้ คุณพ่อบอกว่าปีนี้จะได้ทำกระทง 100 อัน แต่ปีหน้าอาจจะทำ 1,000 อัน แล้วอีกสองปีก็จะได้ 10,000 ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณพ่อมาก ถึงแม้ว่าช่วงแรกยังไม่ค่อยมีคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม แต่เราพยายามถ่ายทอดอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งอาจจะเห็นความสำคัญสิ่งที่เราทำอยู่



























































นี่คือคำอธิบายของกระทงจุลินทรีย์





















เงินส่วนหนึ่งที่ได้มาจากค่ากระทง นำไปบริจาคกฐินน้ำท่วมบ้างนะครับ




















วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กระทงชีวภาพ

วันที่ 21 พ.ย. 2553 ที่จะถึงนี้เป็นเทศกาลลองกระทง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่สำคัญสำหรับชาวไทย
แต่เนื่องจากจำนวนกระทงมากจึงทำให้เกิดปัญหาส่ิงแวดล้อม เพราะกระทงก็จะเป็นขยะ

โรงแยกขยะฝ่ายสิ่งแวดล้อมจึงพยายามคิดสูตรทำกระทงที่ย่อยสลายเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้

วัตถุดิบที่จะใช้ก็คือกระดาษรวม นำกระดาษรวมไปหมักกับน้ำหมัก EM และทำเป็นกระดาษสา
































































ทำเป็นกระทงที่สวยงาม ทำเสร็จแล้วก็พ่น EM อีกรอบหนึ่ง



















นอกจากกระดาษสา(กระดาษที่ปั่นแล้ว)ย่อยสลาง่ายแล้ว ยังผสม EM อีก ฝ่ายสิ่งแวดล้อมหวังว่าปัญหากระทงเป็นขยะก็จะน้อยลง

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมเก็บขยะ

ฝ่ายสิ่งแวดล้อมทำกิจกรรมเก็บขยะทุกวันพุธตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อทำให้ชาวรุ่งอรุณตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมหรือการทิ้งขยะ

ความจริงยังได้ประสบผลสำเร็จเรื่องนี้ คือยัมีคนที่ทิ้งขยะอยู่ แต่บรรยากาศในฝ่ายสิ่งแวดล้อมดีขึ้นและทำงานเป็นทีมมากขึ้นกว่าเดิม

ตัวกิจกรรมก็มีคุณภาพมากขึ้น ช่วงแรกหลายอาจจะรู้สึกไม่พอใจกับคนที่ทิ้งขยะ แต่ช่วงหลังเริ่มมีความสุขกับงานและเห็นคุณค่าสิ่งที่เราทำอยู่ ทุกคนจึงอยากให้ชาวรุ่งอรุณตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้

หลายคนในทีมเสนอว่าใส่เสื้อเป็นทีมดีกว่า ผมก็เลยให้เพื่อนญี่ปุ่น print เสื้อขยะเหลือศูนย์





















ใส่ไปแล้วครั้งหนึ่ง ทุกคนก็เสนอว่าเพิ่มคำรณรงค์ดีกว่า ผมก็เลยให้เพื่อนช่วยใส่คำรณรงค์เข้าไปอีก ซึ่งแต่ละคนเลือกคำไม่เหมือนกัน ตามความปรารถนาของตนเอง
















แล้วก็มีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งคือครูโม(ผ.อ.ท่านใหม่)เห็นความพยายามของเราแล้ว ท่านเสนอว่าให้ทีมสิ่งแวดล้อมมีโอกาศที่จะอบรมเรื่องขยะให้กับผู้ปกครอง

ทุกคนในทีมคิดมาหลายครั้งแล้วว่าขอเข้าประชุมและอบรมเรื่องขยะ

แต่ครั้งนี้ผ.อ.เห็นคุณค่าสิ่งที่เราทำอยู่และให้โอกาศ ผมว่าเรื่องนี้น่าประทับใจมากกว่าเราเสนอ เพราะว่าทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
















วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การกินเนื้อสัตว์กับสิ่งแวดล้อม

เทศกาลกินเจปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. คนไทยหลายคนกลายเป็น vegetarian ชั่วคราว สำหรับ vegan อย่างผมหาของกินง่ายในช่วงนี้และรู้สึกดีใจที่หลายๆคนกลายเป็น vegetarian ชั่วคราว






















ผมเอง vegan อยู่แล้วจึงไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินเลย เหตุผลที่ผมเป็น vegan เพราะว่า
1. เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม พลังงานเพื่อผลิตเนื้อสัตว์มากกว่าพลังงานที่ใช้ในการผลิตผักหลายเท่า เพราะเพื่อที่จะเลี้ยงสัตว์ ต้องผลิตอาหารสัตว์(ส่วนใหญ่จะเป็นพืช)ก่อน ดังนั้นปลูกพืชกินเลยจึงมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงกว่าเสี้ยงสัตว์ (เอาเศษอาหารไปกินก็ต้องเสียพลังานขนส่ง)

กินผักจึงเสียน้อยกว่ากินเนื้อสัตว์

2. พวกเราเป็น mammalia ระบบย่อยอาหารของ mammalia เหมาะกับการกินผลไม้มากกว่ากินเนื้อสัตว์ พวกลิงก็กินสัตว์บ้างเหมือนกัน แต่นี่คือการปรับตัวให้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมมากกว่า ป่าถูกทำลายจึงต้องยอมกินเนื้อสัตว์ ระบบร่างกายของเราเหมาะกับการกินพืช

สมัยก่อนยูโรปปลูกพืชยากจึงต้องปลูกหญ้าและเลี้ยงสัตว์กินนมกินเนื้อ แต่ปัจจุบันนี้ปลูกพืชกินเลี้ยงคนได้เยอะกว่าผลิตเนื้อสัตว์กิน เสียพลังงานน้อยกว่า ประหยัดน้ำได้มากกว่า

เหตุผลที่ผมเป็น vegan มีอีกมากมาย แต่วันนี้เล่าแค่นี้ก่อน

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทำไมมนุษย์ชอบกินน้ำมัน?

คนสมัยนี้ประสบปัญหาเกินน้ำหนักหรืออ้วน ซึ่งปัญหานี้ไม่มีในสัตว์ธรรมชาติ ทำไมเฉพาะมนุษย์มีปัญหาอ้วน? คำตอบก็คือกินมากไป!! โดยเฉพาะเราชอบของหวานและของทอด ทำไมเราชอบ cake กับไก่ทอดละ
































เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตามหาของกินจากธรรมชาติยาก ระบบร่างกายเราจึงพัฒนาประสิทธิภาพในการเก็บพลังงานสูงและนิยมอาหารที่พลังงานสูงเพื่อที่จะเอาตัวรอด
แต่ไม่กี่ร้อยปีนี้เอง มนุษย์ผลิตอาหารได้มากขึ้น กินเยอะขึ้น แต่ระบบร่างกายกับความนิยมรสชาติยังเหมือนเดิมจึงอ้วน (ชอบกินหวาน ชอบกินมัน เก็บพลังงานได้ดี)


อ้วนคือปัญหาเรา เรากินน้อยลงหรือออกกำลังกายก็จะผอมลงได้

แต่วันนี้มีความหวังจากฝ่ายสิ่งแวดล้อม ก็คือทานอาหารที่ใช้น้ำมันแล้ว ขอให็ทุกท่านไม่ทิ้งน้ำมันและไขมันในท่อระบายน้ำ

น้ำมันและไขมันในน้ำ บำบัดยาก โรงเรียนเรา เจ้าหน้าที่ตักไขมันเกือบทุกวัน แต่เมื่อก่อนกากไขมันไม่มีที่ไป






























แต่ปัจจุบันนี้ฝ่ายสิ่งแวดล้อมกำจัดกากไขมันและน้ำมันที่ตักมาด้วยกองปุ๋ย เราเอากากไขมันผสมกับปุ๋ยเศษอาหารและให้จุลินทรีย์ในปุ๋ยช่วยย่อยกากไขมันและน้ำมัน

จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยหมักย่อยไขมันได้ดีก็จริง แต่งานตักไขมันเป็นงานที่หนักและลำบาก ถ้าใครมีน้ำใจขอให้ไม่ทิ้งน้ำมันในท่อระบายน้ำด้วยนะครับ




วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ศีลธรรมอันดีของประชาชน

การอยู่ร่วมกันในสังคม จำเป็นต้องมีศีลธรรมเพื่อไม่เดือดร้อนคนอื่น

หลังจากเริ่มโครงการ Zero Waste ชาวรุ่งอรุณพยายามลดขยะโดยวิธีแยกขยะให้ถูกต้องเพื่อทำให้ขยะเหลือศูบย์ แต่ทำโครงการมาหลายปีมาแล้ว หลายคนไม่สนใจเรื่อง Zero Waste จึงทำให้แยกขยะไม่ชัดเจน

นี่คือถังขยะย่อยสลายง่ายนะครับ แต่ขยะย่อยสลายยากจะเยอะกว่า














นี่คือตัวอย่างถังย่อยสลายง่ายที่ดี แยกถูกต้อง แต่ทำต้อทิ้งอาหารเยอะอย่างนี้














ตอนนี้โรงเรียนพยายามแก้ปัญหาน้ำเสียอยู่ สาเหตุน้ำเสียส่วนใหญ่มาจากน้ำมันและไขมันที่ถูกทิ้งกับอาหาร

นี่คือบ่อดักไขมัน สีส้มที่ลอผิวน้ำเป็นน้ำมันพีช สีขาวเป็นไขมัน














นี้คิอบ่อบำบัดที่ต่อจากบ่อดักไขมัน น้ำมันที่ไม่ได้ถูกดักที่บ่อดักไขมันก็เยอะเหมีอนกัน ตอนนี้กำลังจะเริ่มรณรงลดน้ำมันและไขมันที่ทิ้ง

ทุกคนนึกถึงคนอื่นและมีศีลธรรมที่ดี น่าจะลดน้ำมันและไขมันได้














นี่คือถังวัดปริมาณน้ำมันและไขมันที่เจ้าหน้าที่ตักมาจากบ่อดักไขมันและบ่อบำบัด เพื่อที่จะเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำมันและไขมัน

หวังว่าลดปริมาณน้ำมันและไขมัน

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ทิ้งขยะในโรงเรียน

ตั้งแต่เทอมที่แล้ว ฝ่ายสิ่งแวดล้อมพยายามเก็บขยะทุกวันพุธ เพื่อทำให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาการทิ้งขยะและปลูกฝังความรู้สึกเกรงใจกับการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ปรากฎว่าไม่ได้ผลสำเร็จ ปริมาณขยะที่ถูกทิ้งไม่ลดลง ฝ่ายสิ่งแวดล้อมจึงต้องคิดวิธีต่อไป






























มีบางคนชื่นชมและให้กำลังใจเราว่ามีบุญ ทำดีมาก ฯลฯ แต่น้อยคนช่วยเราหรือพยายามทิ้งให้ถูกต้อง คนส่วนใหญ่ไม่สนใจหรืออาจจะสบายใจในการทิ้งเพราะมีคนเก็บขยะแล้ว ทิ้งเยอะกว่าเดิม

เหมือนตอนที่กองเชียร์ญี่ปุ่นเก็บขยะหลังเกมส์ฟุตบอล ทุกคนก็ชื่นชม แต่ไม่มีใครทำตาม

เมื่อก่อนผมได้คุยกับครูสิงคโปร์ ผมบอกว่า"ประเทศสิงคโปร์สะอาดที่สุดในโลก ชาวสิงคโปร์เก่งมาก" แต่ครูคนนั้นบอกว่า"สิงคโปร์สะอาดก็จริงแต่มีกฎหมายบังคับ ญี่ปุ่นไม่มีกฎหมายบังคับก็ยังสะอาดมากพอสมควร คนญี่ปุ่นเก่งกว่า"

ผมอยากให้ชาวรุ่งอรุณสำผัสและกระหนักถึงสิ่งแวดล้อมด้วยตนเองแต่ไม่สำเร็จ ต้องมีกฎระเบียบ ผมไม่ชอบให้มีกฎแต่อาจจะช่วยได้บ้าง
















































วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ปุ๋ยหมัก-ท่อแนวตั้ง

เพื่อที่จะทำปุ๋ยหมักที่ดี มีคุณภาพ เราควรรักษากองปุ๋ยเป็น aerobic หรือมีอากาศ ถ้าเกิดข้างในกองขาดอากาศแล้ว ปุ๋ยหมักก็จะเน่า แต่ว่าจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยบริโภคออกซิเจนมาก ข้างในกองจึงมักจะเป็น anaerobic หรือไม่มีอากาศ ทำอย่างไรดี

โดยทั่วไปใช้ blower ไฟฟ้าเติมอากาศ แต่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมไม่อยากจะใช้พลังงานไฟฟ้า

เราจึงใช้ท่อเจาะรูแทน ท่อออกแบบใหม่ของเราพิเศษ ท่อแบวตั้งกับแนวนอนต่อกัน เพื่อตามกระแสอากาศของกองปุ๋ยหมัก





















กองปุ๋ยหมักเป็นอย่างนี้ รูปร่างเหมือนพาราโบรา





















ข้างในกองปุ๋ยหมัก actinomycetes ก็ขึ้นทั่วเลย















วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คุณภาพงาน

โรงเรียนรุ่งอรุณสร้างเศษอาหารและขยะย่อยสลายหลายร้อย liter ต่อวัน พวกแม่ครัว แม่บ้านและนักเรียนหลายคนช่วยขนเศษอาหารมาให้ที่โรงปุ๋ย พวกเราก็เข้าใจว่ามันเป็นงานที่รังเกียจ แต่ทุกคนก็พยายามช่วยเราอยู่ แต่บางครั้งก็ขาดความประณีตจึงทำให้สิ่งที่ดีกลายเป็นสิ่งที่ชั่ว น่าเสียดาย














งานพวกนี้รังเกียจจริง แต่ทุกคนใส่ใจกับเรื่องนี้แล้ว น่าจะหมดปัญหาเศษอาหารตั้งแต่ต้นเหตุ ก็คือทำให้ปริมาณเศษลดน้อยลงได้

กำจัดกิ่งไม้ได้อย่างไร?

โรงเรียนรุ่งอรุณมีต้นไม้หลากหลาย สวยงาม อุดมสมบูรณ์ แต่ป่ารุ่งอรุณไม่ใช่ป่าธรรมชาติ เป็นป่าที่มนุษย์ปลูก เราจึงต้องรักษา ดูแลป่าของเรา

การลิดกิ่งเป็นหน้าที่สำคัญของฝ่ายสิ่งแวดล้อม แต่มีปัญหาคือเอากิ่งไม้พวกนี้ไปทำอะไร กองไว้เฉยๆก็ย่อยช้า เผาก็เดือดร้อนบริเวณโรงเรียน(ถึงแม้ว่า carbon neutrality ก็ตาม) บางทีกทม.ก็มาช่วยเก็บให้แต่มาไม่บ่อย(แต่นี่คือ carbon negative)

ดังนั้นฝ่ายสิ่งแวดล้อมจึงบดกิ่งไม้ให้ระเอียดพอสมควรและผสมกับกองปุ๋ยหมักเศษอาหาร






























กิ่งไม้ย่อยยาก ถึงแม้ว่าปั่นให้ละเอียดแต่

1. เราผสมกากไขมันจากบ่อดักไขมันจึงทำให้อุณหภูมิสูง(60-70°C) เป็นระยะนานทำให้ actinomycetes (ย่อย hemicellose) ทำงานนานๆ ทำให้กิ่งไม้ย่อยดีขึ้น

2. ผสมกากไขมันในกองปุ๋ยหมักมีกลิ่นเหม็น แต่เราผสมผงถ่าน เศษถ่านแล้วมีกลิ่นน้อยลงได้มากพอสมควร

3. ผสมผงถ่านอย่างเดียว ดับกลิ่นไม่พอ แต่ใช้ท่อทรง T (หรือท่อแนวตั้ง) แล้วกลางกองปุ๋ย aerobic มากขึ้น จึงมีกลิ่นเหม็นน้อยลงมาก

















4. เมื่อก่อนเผาถ่านแล้วมีควันเยอะ ทำให้เดือดร้อน คนอยู่รอบโรงเรียน แต่ตอนนี้ทำเตาที่มีถังดับควันแล้ว ทำให้ควันน้อยลงมาก แต่มีควันบางทำให้ไล่ยุงได้

5. เตาใหม่เก็บน้ำส้มควันไม้ได้เยอะ นำไปใช้ไล่แมลงวันได้














แต่ไม่ใช่ว่าหมดปัญหาแล้ว ยังใช้พลังงานเครื่องปั่นอยู่ จึงยังเป็น carbon positive อยู่

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เตาเผาถ่านที่ควันน้อย

เตาเผาถ่านที่ควันน้อย (ได้น้ำส้มควันไม้เยอะ)

จุดเป้าหมายของฝ่ายสิ่งแวดล้อมโรงเรียนรุ่งอรุณคือพยายามทำให้ขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) ขยะเหลือศูนย์หมายความว่าแม้ขยะย่อยสลายก็ไม่ทิ้งนะครับ

ที่ผ่านมาพวกไม้ที่ใช้งานไม่ได้แล้ว (เศษไม้อัด เศษไม้ไผ่ข้าวหลาม กะลามะพร้าวอ่อน)ไม่มีที่ไป จึงต้องยอมกองไว้ในป่าโรงเรียนและรอให้มันย่อยเป็นธรรมชาติ แต่มันย่อยช้ามาก ดูไม่สะอาดนะครับ

แต่ตอนนี้มีที่ไปแล้ว ก็คือเผาถ่านสำหรับผสมกับกองปุ๋ยหมักเศษอาหาร+กากไขมันจากบ่อดักไขมัน จึงทำให้ดับกลิ่นเศษอาหารและกากไขมันในการหมักเป็นปุ๋ย

จริงๆแล้วใช้วิธีนี้มานานแล้ว แต่มีปัญหาควันทำให้เดือดร้อนบริเวณโรงเรียน

แต่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม(พี่จักรชัย)แก้ปัญหาควันด้วยเตาพิเศษนะครับ สูตรนี้สามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมโรงเรียนรุ่งอรุณได้นะครับ

roongaroon.environment@gmail.com
hiimurajah@gmail.com























วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

นักเรียนช่วยกัน

เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย. 2553 ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนประสบณ์ปัญหาคือต้นไม้ล้ม
















แต่ นักเรียนหลายคนช่วยกัน































มีกองเชียร์ด้วย

















ต้นไม้ลุกขึ้นได้

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผู้ปกครองสอน EM

วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกนะครับ
แตาเรารักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่วันนี้วันเดียว ต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ตลอดเวลา จึงทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นนะครับ ปีนี้ประเทศไทยร้อนมาก ฝันก็ไม่ค่อยตก แห็งแล้ง ชาวนาชาวไร่ลำบาก ชาวเมืองจึงต้องช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้

วันนี้มีข่าวดีนะครับ ตอนนี้ผู้ปกครองสอนวิธีการทำ EM ให้กับผู้ปกครองและคุณครูอยู่ คุณพ่อมาสอนทุกวันนะครับ เก่งมาก
ครูปุ้ยฝ่ายสิ่งแวดล้อมก็พยายามฝึกวิธีการทำ EM EM โบกาฉิห EM dango ฯลฯ

ถึงแม้ว่าครูหรือผู้ปกครอง นักเรียนก็ตาม แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน น่าจะดีและมีประโยชน์มาก

!!ถ้าเกิดใครสนใจ สามารถมาดูงานที่ศูนย์รีไซเคิล(ที่ครูปุ้ยอยู่)ได้ ช่วงนี้คุณพ่อมาสอนทุกวันนะครับ!!